| กางเกงเล เน้นสีสันสดใส | | | หากมีไอเดียดี ประกอบมุ่งมั่นพยายามอย่างแท้จริง โอกาสแห่งความสำเร็จย่อมมีเสมอ อย่างธุรกิจกางเกงเลสีสันจัดจ้าน ในชื่อ “นุ้ย&นุช แปรรูปผ้าไทย” จากฝีมือคู่ซี้ อย่าง “พัสส์พร พิณพาทย์” (นุ้ย) และ “ปิยพรรณ พันธ์ไพศาล” (นุช) ที่ เริ่มต้นด้วยทุนแค่ 3 พันบาทวางขายแบกะดิน ค่อยๆพัฒนาทั้งด้านสินค้าและการตลาด ด้วยระยะเพียง 3 ปี ธุรกิจยืนได้อย่างแข็งแรง มีเงินหมุนเวียนหลักแสนต่อเดือน
|
| พัสส์พร พิณพาทย์ (ซ้าย) และปิยพรรณ พันธ์ไพศาล | | | จุดเริ่มต้นธุรกิจ เกิดจากทั้งสองเป็นแค่แม่บ้านธรรมดาๆ ที่หลังจากส่งลูกไปโรงเรียนแล้วจะเหลือเวลาว่างมาก จึงอยากทำอาชีพเล็กๆ น้อยๆ เป็นรายได้เสริมช่วยเหลือครอบครัว ใน ที่สุด มาลงตัวที่จะตัดกางเกงเลออกขาย เพราะส่วนตัวพัสส์พรมีพื้นฐานการตัดเย็บอยู่บ้าง ประกอบกับเห็นว่า กางเกงเลเป็นที่นิยมของลูกค้าทั่วไปอยู่แล้ว
|
| จุดขายเป็นลายผีเสื้อและดอกไม้ | | | “พวกเราลงทุนครั้งแรกแค่ 2-3 พันบาทเท่านั้น ไปซื้อผ้ากันเอง โดยนุ้ย รับผิดชอบเป็นคนลงมือเย็บเองทั้งหมด ครั้งแรกทำแค่ 30 ตัว แล้วลองไปวางขายแบกะดินที่ตลาดนัด” ปิยพรรณ เล่า ทว่า ความพยายามดังกล่าว ประสบความผิดหวังรุนแรง เพราะทั้งวันขายได้แค่ 3 ตัว เนื่องจากสินค้ายังขาดความโดดเด่น เป็นแค่กางเกงเลตัดเย็บด้วยผ้าพื้น กับผ้าถุงลายปาเต๊ะเหมือนๆ กับเจ้าอื่นทั่วไป
|
| นำเศษผ้ามาทำเป็นบรรจุภัณฑ์ | | | เมื่อรู้ปัญหา คู่ซี้พยายามพัฒนา โดยใช้ข้อแนะนำจากลูกค้ามาปรับปรุง ทว่า ผ่านไป 2-3 เดือน ยอดขายยังไม่กระเตื้องนัก จนเริ่มคิดยุติอาชีพนี้แล้ว กระทั่ง เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อไปพบผ้าลายผีเสื้อและดอกไม้สีสันสดใส ซึ่งในท้องตลาดเวลานั้น ยังไม่มีใครนำมาตัดเป็นกางเกงเล เกิดปิ๊งไอเดียรีบซื้อมาตัดออกขายทันที
|
ผลที่ตามมาแทบไม่น่าเชื่อ กางเกงเลสีสันจัดจ้าน ลายผีเสื้อและดอกไม้โดนใจลูกค้าอย่างมาก ยอดขายเพิ่มจากเดิมหลายเท่าตัว ยิ่งกว่านั้น ลูกค้าที่ซื้อไปแล้ว มักไปบอกต่อ ช่วยให้ได้ออเดอร์ตามมาต่อเนื่อง “จุด เด่นมาจากลวดลายผ้า และสีที่โดดเด่นมาก ลูกค้าเห็นแล้วต้องสะดุดตา ทำให้ยอดขายดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ที่สำคัญทำให้เรา เริ่มจับทางที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้ รู้ว่าควรจะเดินต่อไปทางไหน ไม่เหมือนช่วงแรกๆ ที่ยังขาดจุดเด่นเฉพาะตัว” พัสส์พร ระบุ
|
| กางเกงขาสั้น | | | ปิยพรรณ เล่าว่า ระยะเวลาเพียง 5 -6 เดือน นับจากเริ่มทำออกขาย ธุรกิจสามารถตั้งลำได้อย่างจริงจัง ซึ่งก้าวที่ท้าทายต่อมา คือ พัฒนาสินค้าให้ได้ทั้งคุณภาพดี และดีไซน์หลากหลายยิ่งขึ้น โดยในเรื่องผ้าเจาะจงใช้ผ้าฝ้าย 100% สั่งตรงจากโรงงาน เพื่อให้ได้ลวดลาย และคุณภาพผ้าที่ดีตามต้องการ คุณสมบัติใส่สบาย ซักแล้วไม่หด และสีไม่ตก
|
| กระโปรง | | | นอกจากนั้น การผลิตเปลี่ยนจากทำเองคนเดียวทั้งหมด ได้ชักชวนแม่บ้านและผู้สูงอายุในชุมชนกว่า 10 คน ที่มีพื้นฐานการตัดเย็บอยู่แล้วเข้ามาเป็นแรงงาน ส่วนดีไซน์ว่าจ้างมืออาชีพมาช่วยเหลือ เพิ่มเติมแบบใหม่เสมอ รวมแล้วถึงปัจจุบัน มีกว่า 10 รายการ เช่น กางเกงเลขาสั้น – ยาว กระโปรง เสื้อ เป็นต้น ราคามีตั้งแต่ 250-350 บาท มีขนาดให้เลือกตั้งแต่เอว 30 นิ้วไปถึง 40 นิ้ว โดยไอเดียการออกแบบส่วนใหญ่จะได้จากคำแนะนำของลูกค้า ประกอบกับตามติดกระแสแฟชั่น อย่างไรเสีย คงรักษาเอกลักษณ์ใช้ผ้าสีสด และลายผีเสื้อและดอกไม้เช่นเดิม
|
จุดเด่นที่สำคัญ อีกประการ ได้นำเศษผ้าเหลือทิ้ง มาใช้ประโยชน์ทำเป็นบรรจุภัณฑ์ โดยตัดเป็นกระเป๋าหิ้วใส่กางเกงเล แล้วขายในราคาเท่าเดิมไม่มีบวกเพิ่ม ซึ่งไอเดียนี้ ช่วยเพิ่มคุณค่าสินค้า ผู้ซื้อรู้สึกคุ้มค่า โดยไม่ต้องลงทุนมาก เพิ่มเติมแค่ค่าจ้างเย็บ ใบละ 3 บาทเท่านั้น อีกด้านที่ช่วยให้กางเกงเลของสาวคู่ซี้ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง คือ ความพยายามเดินเข้าหาหน่วยงานราชการ เพื่อผลักดันให้สินค้าได้เป็นโอทอปของ จ.นนทบุรี ภายใต้ชื่อ แบรนด์ “นุ้ย&นุช แปรรูปผ้าไทย” ซึ่งกว่าจะสำเร็จใช้เวลาร่วมปี แต่ผลที่กลับมาคุ้มแสนคุ้ม เพราะมีโอกาสไปออกบูทตามงานโอทอปต่างๆ เสมอ เฉลี่ยมากกว่า 4 ครั้งต่อเดือน ซึ่งถือเป็นช่องทางขายอย่างดี และยังเปิดโอกาสให้ได้พบผู้สนใจเป็นตัวแทนสั่งซื้อสินค้าไปขายต่ออีกด้วย
|
สำหรับกลุ่มลูกค้าของกางเกงเล “นุ้ย&นุช แปรรูปผ้าไทย” ส่วนใหญ่จะเป็นสาววัยรุ่นถึงวัยทำงาน รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยช่องทางตลาด มีหน้าร้านประจำขายวันเสาร์และอาทิตย์ที่ตลาดบางน้ำผึ้ง ย่านพระประแดง และออกบูทตามงานโอทอปต่างๆ ในส่วนปัญหานั้น ปิยพรรณ ชี้ไปที่การรักษาคุณภาพสินค้าให้สม่ำเสมอ เนื่องจากต้องผลิตในปริมาณมากๆ กระจายงานให้หลายคน การดูแลคุณภาพจึงยากเป็นเงาตามตัว ดังนั้น ใช้วิธีลงไปตรวจสอบด้วยตัวเองทุกขั้นตอน ขณะเดียวกันยอมลงทุนใช้ผ้าคุณภาพดีเป็นฝ้าย 100% แม้ต้นทุนผลิตจะสูงกว่า 50% ของราคาขายปลีก แต่อาศัยขายในปริมาณมาก อีกทั้ง การเลือกที่จะรักษาคุณภาพมากกว่ากำไรสูง กลายเป็นผลดีในระยะยาว ที่แม้จะมีเจ้าอื่นๆ เลียนแบบลวดลายและดีไซน์ แต่สุดท้ายลูกค้ายังนิยมเลือกสินค้าของ “นุ้ย&นุช แปรรูปผ้าไทย” เพราะคุณภาพผ้าที่ดีกว่า
|
พัสส์พร เผยว่า ระยะเวลา เพียง 3 ปีจากวันแรกที่เริ่มทำขาย ด้วยทุนก้อนแรกแค่ 2-3พันบาท ปัจจุบัน ธุรกิจมีเงินหมุนเวียนหลักแสนบาทต่อเดือน ยอดขายเฉลี่ยกว่า 2-3 พันตัวต่อเดือน และยังช่วยสร้างรายได้ให้สมาชิกกลุ่ม10 กว่าคน เฉลี่ยคนละ 5 พันบาทต่อเดือน “ลอง คิดย้อนกลับไป มันก็เป็นความภูมิใจ จากที่คิดทำกันเล็กๆ ก็มามีวันนี้ได้ ทั้งที่ตอนแรกขายไม่ดีเลย ยอมรับว่า ท้อมาก คิดอยากเลิกแล้ว แต่ก็ลองฮึดอีกครั้ง มันก็กลับมาขายดีอย่างไม่น่าเชื่อ จนทำกันไม่ทัน” พัสส์พร กล่าว ขณะ ที่ ปิยพรรณ เสริมว่า สิ่งสำคัญของคนทำธุรกิจ คือ เอาใจใส่ดูแลลูกค้า อย่าคิดเรื่องกำไรเป็นเป้าหมายแรก แต่ขอให้ผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพดี พัฒนารูปแบบเสมอ และขายในราคาเหมาะสม สุดท้ายผลกำไรจะตามกลับมาหาเอง
|
@@@@@@@@@@@@@ โทร.08-1431-3278 , 08-6886-0909
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น